การ Digitization คืออะไร และมีประโยชน์อย่างไร

Digitization คืออะไร ?

การแปลงข้อมูลจาก“ที่เป็นรูปแบบแอนะล็อก (analog)” ไปเป็น “รูปแบบดิจิทัล(digital)“

แล้วข้อมูลที่เป็น “รูปแบบแอนะล็อก (analog)” มันน่าตาเป็นยังไง ??

คือ ข้อมูลที่ไม่ได้ถูกแปลงเป็นภาษาของคอมพิวเตอร์ ทำให้ข้อมูลที่ได้มาหรือเก็บรักษาไว้สามารถตีความออกไปได้หลายๆแบบออกไป ทำให้เกิดข้อผิดพลาดทางข้อมูลและความเสียหายของข้อมูลนั้นๆได้ เช่น เอกสาร, หนังสือ, บทความ, แผนภูมิ, และข้อมูลอื่น ๆ ที่ถูกบันทึกลงบนกระดาษ เป็นต้น

ส่วนข้อมูลใน “รูปแบบดิจิทัล(digital)” นั้น

คือ ข้อมูลที่ถูกแปลงไปเป็นรหัสดิจิทัล, หรือข้อมูลที่ถูกแทนด้วยค่าทางดิจิทัลเท่านั้น ซึ่งมีเพียงค่า 0 และ 1 เท่านั้นในระบบทศนิยม. ข้อมูลดิจิทัลมักถูกใช้ในระบบคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีดิจิทัลอื่น ๆ เช่น ไฟล์เอกสาร, ไฟล์รูปภาพ, ไฟล์เสียง, ไฟล์วิดีโอ, และอื่น ๆ ที่ถูกเข้ารหัสด้วยรหัสดิจิทัล. นั่นเอง

ที่นี้เราก็จะรู้แล้วว่าความแตกต่างระหว่างข้อมูล “แอนะล็อก (analog)”กับ “ดิจิทัล(digital)” มันต่างกันยังไง ??

ปัญหาเอกสารสุดสำคัญหายจะหมดไป !!!

แล้วประโยชน์ของการทำ Digitization คืออะไร ?

ถ้าพูดถึงในเชิงธุรกิจแล้วการDigitizationเป็นเรื่องที่สำคัญมากสำหรับทุกองค์กรเป็นอย่างมาก เพราะจะทำให้องค์กรของคุณมีข้อมูลทีมีประสิทธิภาพและตอบสนองต่อความเปลี่ยนแปลงทางธุรกิจที่รวดเร็วเป็นอย่างมากในยุคปัจจุบัน

การเข้าถึงข้อมูลที่สะดวกสบายมากยิ่งขึ้น : ข้อมูลที่อยู่ในรูปแแบบกระดาษนั้นมีปัญหามาก ในการหาที่จัดเก็บและการเรียกใช้ข้อมูลแต่ล่ะที่นั้นแสนจะทำได้อยากลำบาก แถมยังมีความเสี่ยงที่ข้อมูลจะสูญหายได้ แต่ถ้าทุกองค์กร หันมาเก็บเป็นไฟล์เอกสารแทน จะทำให้ค้นหาข้อมูลได้ง่ายยิ่งขึ้น เรียกใช้ข้อมูลก็สามารถทำได้ง่ายการเข้าถึงของข้อมูลทำได้หลายๆแผนกพร้อมกัน ไม่ต้องไปวุ่นวานที่จะไปหาเอกสารในลังอีกต่อไป
ลดระยะเวลาในการทำงาน : ข้อมูลที่แปลงเป็น ดิจิทัล แล้วจะสามารถลดระยะเวลาและความผิดพลาดในการทำงานได้เป็นอย่างดี ไม่ไปเสียเวลากับการจัดเก็บเอกสารที่เป็นกระดาษ แถมยังสามารถใช้ข้อมูลนั้นๆนำมาวิเคราะห์ได้อย่างรวดเร็วอีกด้วย
การเก็บรักษาข้อมูล : ข้อมูลไม่มีสูญหายไม่เสื่อมภาพแถมยังจะสามารถเรียกใช้ข้อมูลย้อนหลังได้อีกด้วย
การสื่อสารในแต่ละแผนก : ข้อมูล ดิจิทัล สามารถถูกแบ่งปันและสื่อสารได้ทันทีผ่านทางอินเทอร์เน็ตและ ทำให้การทำงานร่วมกันเป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

กล่าวง่ายๆเลยคือ Digitization ข้อมูลนั้นเป็นสิ่งที่สำคัญมากๆกับทุกๆองค์กรในปัจจุบัน ในทุกๆองค์กรก็หันมาทำธุรกิจออนไลน์กันมากขึ้น ข้อมูลทุกอย่างจึงเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างมาก ในปัญจุบันการเเข่งขันของธุรกิจนั้นให้ความสำคัญของข้อมูล DATA เป็นอย่างมาก ธุรกิจไหนองค์กรไหนมีข้อมูลที่เยอะและมีประโยชน์ก็จะสามารถพัฒนาและเปลี่ยนแปลงองค์กรได้อย่างรวดเร็วทันยุคทันสมัยได้ เป็นยุคแห่งการแข่งขันทางข้อมูลนั้นเอง

หากท่านใดสนใจพัฒนาองค์กรของท่านไปกับ SO NEXT

ให้ SO NEXT ช่วยลดขั้นตอนในการทำงานของคุณให้กระซับขึ้น และ ง่ายต่อการใช้งานมากขึ้น เพื่อให้คุณประหยัดเวลาและพัฒนาธุรกิจได้อย่างต่อเนื่อง

ให้ SO NEXT ช่วย TRANFORMATION เปลี่ยนเอกสารจาก กระดาษ เปลี่ยนเป็น Digital Files เพื่อง่ายต่อการใช้งาน ค้นหา จัดเก็บ รวมถึงมีความปลอดภัยของข้อมูลและจำกัดสิทธิ์การเข้าถึงข้อมูลในองค์กรของคุณ

ในยุคสมัยก่อนองค์กรส่วนใหญ่มักจะมีปัญหาเกี่ยวกับการจัดการข้อมูลเพราะข้อมูลส่วนใหญ่นั้นจะอยู่ในรูปแบบแอนะล็อก (Analog) ซึ่งเป็นข้อมูลที่อยู่ในรูปแบบทางกายภาพ จึงส่งผลให้ การจัดเก็บเอกสารแสนจะลำบาก การติดต่อสือสารก็ทำได้ล่าช้า การที่จะทำธุรกรรมต่างๆแต่ละที่ก็ยุ่งยาก แถมยังการบริหารจัดการข้อมูลต่างๆในองค์กรก็ทำได้ยากมาก ในบทความนี้ SO NEXT จะมาเล่าให้ฟังว่าการ Digitization มันคืออะไร และมีประโยชน์มากแค่ไหนกับองค์กรของคุณ

หมดกังวลเอกสารสำคัญหาย ด้วยการ Digitization

Digitization คืออะไร ?

กระบวนการแปลงข้อมูลที่เป็นรูปแบบแอนะล็อก (analog) เช่น ข้อมูลที่อยู่ในรูปภาพ, เสียง, เอกสาร, หรือข้อมูลทางกายภาพอื่น ๆ เป็นรูปแบบดิจิทัล ทำให้ข้อมูลนั้นสามารถถูกจัดเก็บ, จัดการ, และแลกเปลี่ยนได้ในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ที่สามารถประมวลผลได้โดยคอมพิวเตอร์.

หมายความว่าการDigitization คือ การเปลี่ยนแปลงข้อมูลจาก“รูปแบบแอนะล็อก (analog)” ไปเป็น “รูปแบบดิจิทัล (digital)” นั่นเอง

ประโยชน์ของการทำ Digitization คืออะไร ?

การDigitization มีประโยชน์มากมายทั้งในด้านธุรกิจ, การบริหาร, การสื่อสาร, และด้านต่าง ๆ ที่มีผลกระทบต่อทั้งองค์กร และนี่คืองประโยชน์ที่สำคัญ ของการDigitization

การเก็บรักษาข้อมูล: ข้อมูลที่ถูกแปลงเป็นรูปแบบดิจิทัลสามารถเก็บรักษาได้ในรูปแบบที่ไม่เสื่อมสภาพนานขึ้น เมื่อเทียบกับข้อมูลที่เก็บในรูปแบบกายภาพ.
การค้นหาและเข้าถึงข้อมูล: ข้อมูลดิจิทัลสามารถถูกค้นหาและเข้าถึงได้ง่ายขึ้น, มีความสะดวกและเร็วกว่าการค้นหาข้อมูลที่เก็บในรูปแบบทางกายภาพ.
ประมวลผลและวิเคราะห์ข้อมูล: ข้อมูลดิจิทัลสามารถถูกประมวลผลและวิเคราะห์ได้โดยรวดเร็ว, ช่วยในการทำนายแนวโน้ม, วิเคราะห์ผลการดำเนินงาน, หรือในการตัดสินใจธุรกิจ.
การแบ่งปันและการสื่อสาร: ข้อมูลดิจิทัลสามารถถูกแบ่งปันและสื่อสารได้ทันทีผ่านทางอินเทอร์เน็ตและ ทำให้การทำงานร่วมกันเป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ.
การทำธุรกรรมออนไลน์: การดิจิทัลช่วยให้ธุรกรรมธุรกิจทำได้สะดวกและรวดเร็ว, ไม่ว่าจะเป็นการซื้อขายสินค้า, การชำระเงิน, หรือการสื่อสารทางธุรกิจ.
การทำงานร่วมกันแบบออนไลน์: ข้อมูลที่ดิจิทัลทำให้การทำงานร่วมกันระหว่างทีมงานที่ต่างที่อยู่ไกลกันเป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ.
การพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการ: การใช้ข้อมูลดิจิทัลช่วยในการวิเคราะห์ความต้องการของลูกค้า, ทำให้สามารถพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการที่ตอบสนองต่อลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ.
การทำให้กระบวนการธุรกิจมีประสิทธิภาพมากขึ้น: การนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ในกระบวนการธุรกิจทำให้กระบวนการการทำงานนั้นมีประสิทธิภาพและถูกจัดการได้ดีขึ้น.

หมดปัญหาที่แสนจะวุ่นเพราะเอกสารสุดสำคัญหาย !!!

สรุป

การดิจิทัล คือกระบวนการแปลงข้อมูลจากรูปแบบแอนะล็อกเป็นรูปแบบดิจิทัล เช่น ข้อมูลทางภาพ, เสียง, เอกสารเป็นรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อให้สามารถจัดเก็บ, จัดการ, และแลกเปลี่ยนได้ง่ายขึ้น มีประโยชน์หลายด้าน เช่น เก็บรักษาข้อมูลได้นาน, ค้นหาและเข้าถึงข้อมูลได้ง่าย, ประมวลผลและวิเคราะห์ข้อมูลได้รวดเร็ว, และสามารถทำธุรกรรมออนไลน์และทำงานร่วมกันแบบออนไลน์ได้สะดวก การนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ช่วยในธุรกิจมีผลต่อความสะดวกสบาย, ประสิทธิภาพการทำงาน, และความทันสมัยของธุรกิจทั้งในด้านการผลิต, การบริหาร, และการบริการลูกค้า ทำให้การ Digitalization เป็นหนึ่งในสิ่งที่สำคัญในการพัฒนาธุรกิจในยุคปัจจุบัน ที่ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วในยุคดิจิทัล.