OCR คืออะไร เทคโนโลยีปฏิวัติการประมวลผลข้อมูลจากกระดาษสู่ดิจิทัล

OCR

เคยสงสัยไหมว่าเวลาที่ต้องจัดการกับเอกสารจำนวนมากในองค์กร เราจะทำให้เป็นข้อมูลดิจิทัลได้อย่างไร? OCR คือ เทคโนโลยีที่ช่วยเปลี่ยนข้อมูลจากกระดาษให้กลายเป็นดิจิทัลในทันที บทความนี้จะเปิดเผยเรื่องราวและพัฒนาการของ OCRพร้อมทั้งข้อดีและข้อเสีย เพื่อให้คุณเห็นภาพชัดเจนว่าทำไม OCRจึงเป็นตัวช่วยที่สำคัญในยุคปัจจุบัน

OCR คืออะไร?

OCRหรือ Optical Character Recognition คือ เทคโนโลยีที่ใช้แปลงข้อมูลที่เป็นตัวหนังสือหรือข้อความที่อยู่ในรูปภาพหรือเอกสาร ให้เป็นข้อมูลตัวอักษรที่คอมพิวเตอร์เข้าใจและจัดการได้ เช่น การแปลงข้อความจากไฟล์ PDF หรือภาพถ่ายเอกสารให้เป็นข้อมูลที่แก้ไข ค้นหา หรือวิเคราะห์ได้OCR จึงกลายเป็นเครื่องมือสำคัญในการเปลี่ยนเอกสารที่เป็นกระดาษให้กลายเป็นข้อมูลดิจิทัล โดยเฉพาะในระบบการจัดการเอกสารและข้อมูลที่ต้องการความสะดวกในการค้นหาหรือจัดเก็บ

ภาพOCR

ประวัติของ OCR

เทคโนโลยี OCRเริ่มมีการพัฒนาในช่วงทศวรรษ 1920 โดยในตอนแรกเทคโนโลยีนี้ถูกออกแบบมาเพื่อใช้กับอุปกรณ์การอ่านตัวอักษรง่ายๆ ต่อมาในช่วงทศวรรษ 1950 ได้มีการสร้างเครื่อง OCRรุ่นแรกที่สามารถอ่านภาษาอังกฤษและใช้งานในหน่วยงานราชการและทหาร จนกระทั่งในยุค 1990 OCRถูกพัฒนาให้กลายเป็นซอฟต์แวร์ที่สามารถติดตั้งบนคอมพิวเตอร์ และใช้งานได้ในวงกว้าง ตั้งแต่นั้น OCRได้กลายเป็นเครื่องมือที่ได้รับความนิยมในด้านการจัดการข้อมูล

ในยุคปัจจุบัน OCRได้พัฒนาอย่างก้าวกระโดด ด้วยการใช้เทคโนโลยี AI และ Machine Learning ทำให้ OCRสามารถประมวลผลข้อความได้แม่นยำยิ่งขึ้นแม้กระทั่งเอกสารที่มีการจัดรูปแบบซับซ้อน และรองรับการแปลงข้อความในหลายภาษา รวมถึงภาษาไทย ทำให้สามารถอ่านและแปลงข้อความได้ทั้งจากการพิมพ์และลายมือบางประเภท

OCRใช้กับอะไรได้บ้าง?

เทคโนโลยีOCR มีการนำไปใช้งานในหลายๆ ด้าน ตั้งแต่ธุรกิจขนาดใหญ่จนถึงผู้ใช้ทั่วไป โดยตัวอย่างการใช้งานได้แก่:

  1. ระบบการจัดเก็บเอกสาร: OCRช่วยให้การจัดเก็บและค้นหาเอกสารทำได้ง่ายขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเอกสารธุรกิจ สัญญา บันทึกข้อมูล หรืองบการเงิน
  2. การแปลงไฟล์ PDF เป็นข้อความแก้ไขได้: ช่วยให้ไฟล์ PDF สามารถแก้ไขหรือค้นหาข้อมูลได้เหมือนกับเอกสารที่สร้างจากคอมพิวเตอร์
  3. การประมวลผลข้อมูล: ใช้ในระบบการวิเคราะห์ข้อมูลที่มีการเก็บข้อมูลจำนวนมาก เช่น การวิเคราะห์ใบเสร็จ การแปลงข้อมูลจากบัตรประจำตัวประชาชน หรือการอ่านข้อมูลจากรูปแบบที่เป็นมาตรฐาน
  4. การตรวจสอบความถูกต้องของเอกสาร: OCRใช้ในระบบการตรวจสอบเอกสารและการยืนยันตัวตน เช่น ระบบในธนาคารหรือการเงินที่ต้องการยืนยันข้อมูลจากบัตรประจำตัวหรือเอกสารทางการ
  5. การช่วยเหลือผู้พิการทางสายตา: OCRใช้ร่วมกับเทคโนโลยีอ่านหน้าจอเพื่อช่วยให้ผู้พิการทางสายตาสามารถเข้าถึงข้อมูลที่เป็นข้อความได้

ข้อดีของOCR

  • เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานOCR ช่วยลดเวลาในการพิมพ์ข้อมูลซ้ำหรือจัดเก็บข้อมูลด้วยมือ ทำให้การจัดเก็บเอกสารเป็นไปได้อย่างรวดเร็วและลดการใช้กระดาษ
  • ช่วยเพิ่มความแม่นยำเทคโนโลยีOCR ในปัจจุบันมีความแม่นยำสูงในการแปลงข้อความที่พิมพ์ชัดเจน ทำให้ช่วยลดข้อผิดพลาดจากการคัดลอกข้อมูลด้วยมือ
  • ลดค่าใช้จ่ายการใช้OCR ในการประมวลผลข้อมูลเอกสารแทนการใช้คนสามารถลดต้นทุนด้านแรงงานและเวลาได้
  • รองรับหลายภาษาOCR สามารถรองรับการอ่านและแปลงข้อมูลจากหลายภาษา รวมถึงภาษาไทย ทำให้ใช้ได้ในหลายประเทศและองค์กรที่มีเอกสารหลากหลายภาษา

ข้อเสียของOCR

  • การประมวลผลที่ผิดพลาดในเอกสารคุณภาพต่ำ: หากเอกสารมีคุณภาพต่ำ เช่น ภาพเบลอ หรือมีตัวอักษรที่ผิดปกติ OCR อาจทำให้เกิดการแปลงข้อมูลผิดพลาด
  • ข้อจำกัดในการอ่านลายมือ: แม้จะมีการพัฒนาการอ่านลายมือOCR ยังมีข้อจำกัดในการอ่านข้อมูลจากลายมือที่ซับซ้อนหรือไม่ชัดเจน
  • ค่าใช้จ่ายในการตั้งค่าระบบ: สำหรับธุรกิจขนาดใหญ่ การนำOCR มาใช้ในระบบต้องลงทุนในด้านซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์ที่เหมาะสม ซึ่งอาจมีค่าใช้จ่ายเริ่มต้นสูง

ทำไมถึงควรใช้OCR ?

OCRไม่เพียงช่วยให้การจัดเก็บและค้นหาข้อมูลในเอกสารทำได้ง่ายและสะดวกมากขึ้น แต่ยังช่วยลดขั้นตอนในการทำงาน เพิ่มประสิทธิภาพ ลดข้อผิดพลาดในการจัดการข้อมูล และรองรับการแปลงข้อมูลในหลายภาษา ทำให้เป็นเครื่องมือที่สำคัญสำหรับธุรกิจที่ต้องการบริหารจัดการข้อมูลอย่างมืออาชีพ อีกทั้งยังช่วยลดค่าใช้จ่ายในระยะยาวและเพิ่มความแม่นยำในการทำงาน

สรุป

เทคโนโลยีOCR เป็นเครื่องมือที่ช่วยให้การจัดการเอกสารเป็นไปได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำยิ่งขึ้น ตั้งแต่การแปลงเอกสารกระดาษเป็นดิจิทัลไปจนถึงการประมวลผลข้อมูลต่างๆ ที่อยู่ในเอกสารOCR ในปัจจุบันได้พัฒนาไปอย่างมากจนรองรับภาษาไทย และใช้ AI ในการเพิ่มความแม่นยำ ทำให้OCR กลายเป็นเครื่องมือสำคัญสำหรับธุรกิจในยุคดิจิทัล

SO PEOPLE บริการจัดหาบุคคลที่มีความเชี่ยวชาญในด้านต่างๆ เพื่อให้บริการลูกค้าอย่างมีประสิทธิภาพ เช่น ช่างเทคนิค พนักงานขับรถ พนักงาน IT พนักงานธุรการ และประชาสัมพันธ์ เป็นต้น ด้วยประสบการณ์มากกว่า 40 ปี ในการให้บริการบริษัทชั้นนำทั่วประเทศ การันตีพนักงานพร้อมเริ่มงานภายใน 3 วัน

SOWHEEL บริการรถเช่าสำหรับลูกค้า มีทั้งแบบเช่าขับเองและเช่าแบบพร้อมคนขับ มีทั้งรถตู้ รถเก๋ง รถกระบะ และล่าสุดรถเช่าดัดแปลงตามการใช้งาน ที่พร้อมให้บริการลูกค้าเพื่อตอบสนองความต้องการของทุกธุรกิจ มีฟังก์ชั่นให้เลือกหลากหลาย ประสบการณ์ให้บริการรถเช่ามามากกว่า 20 ปี พร้อมด้วยทีมงานมืออาชีพพร้อมให้บริการ

SOGREEN บริการดูแลสวนและตัดแต่งต้นไม้ใหญ่ ออกแบบการจัดสวนเสริมภาพลักษณ์องค์กร พร้อมให้คำแนะนำเกี่ยวกับการดูแลและรักษาต้นไม้ โดยมีทีมรุกขกรมืออาชีพ